ตามเงื่อนไขที่บังคับใช้ดังต่อไปนี้

ผู้โดยสารอาจพกพากระสุนไว้ในสัมภาระเช็กอินสำหรับเที่ยวบินของสายการบินกาตาร์แอร์เวย์ได้ หากได้สำแดงกระสุนดังกล่าวกับสายการบินแล้วในขั้นตอนการเช็กอิน โดยจะต้องแสดงใบอนุญาตและเอกสารที่จำเป็นสำหรับกระสุนนั้นให้แก่หน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องในประเทศที่ผู้โดยสารเดินทางขาไปและขากลับ

อนุญาตเฉพาะกระสุนประเภท UN0012 และ UN0014 ในกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารเท่านั้น โดยมีน้ำหนักรวมไม่เกิน 5 กก. ต่อคน

หมายเหตุ: หมายเลข UN คืออะไร หมายเลขนี้เป็นตัวเลขสี่หลักที่กำหนดโดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญแห่งสหประชาชาติ (UNCOE) เกี่ยวกับการขนส่งสินค้าอันตราย เพื่อใช้ระบุสารบางอย่างหรือสารหรือสิ่งของเฉพาะบางกลุ่ม "เอกสารข้อมูลความปลอดภัย" (SDS) สำหรับกระสุนดังกล่าวจะระบุข้อมูลนี้ไว้ โดยจะอยู่ในหัวข้อ 14 ของเอกสาร SDS

คุณจะต้องบรรจุกระสุนไว้ในหีบห่อแยกต่างหากจากกระเป๋าสัมภาระที่บรรจุอาวุธปืน โดยอยู่ภายในภาชนะที่แข็งแรงและปลอดภัย (ได้แก่ กล่องไม้ โลหะ หรือไม้อัดที่แข็งแรง หรือบรรจุภัณฑ์ประเภทอื่น) ซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับบรรจุกระสุนจำนวนน้อย และสามารถล็อกได้

คุณอาจนำกระสุนไปด้วยเพื่อการใช้งานส่วนบุคคลเท่านั้น ไม่ควรบรรจุกระสุนที่มีไว้เพื่อการใช้งานสำหรับผู้โดยสารมากกว่าหนึ่งคนไว้ในหีบห่อเดียวหรือหลายหีบห่อ และให้ผู้โดยสารที่มีชื่ออยู่ในการจองเป็นผู้ขนกระสุนดังกล่าว

ติดต่อเราหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

ผู้โดยสารอาจนำอาวุธปืนตั้งแต่หนึ่งชิ้นขึ้นไปใส่ไว้ในกระเป๋าสัมภาระเช็กอินสำหรับเที่ยวบินของสายการบินกาตาร์แอร์เวย์ได้ หากมีการสำแดงอาวุธปืนนั้นกับสายการบินในขั้นตอนการเช็กอิน โดยจะต้องลงชื่อในเอกสาร 'คำประกาศการส่งมอบอาวุธปืน' และแสดงใบอนุญาตและเอกสารที่จำเป็นแก่หน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องในประเทศที่ผู้โดยสารเดินทางขาไปและขากลับ

คุณจะต้องจัดเก็บและบรรจุอาวุธปืนอย่างเหมาะสมในภาชนะบรรจุเนื้อแข็งที่ล็อกได้ โดยจะต้องล็อกกระเป๋าสัมภาระที่ใส่อาวุธปืนไว้ก่อนส่งมอบเพื่อการขนส่ง

ติดต่อเราหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

โปรดปิดอุปกรณ์ทั้งหมดที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ หากพกพาอุปกรณ์ดังกล่าวไว้ในกระเป๋าสัมภาระเช็กอิน โดยอย่าเปิดโหมดสลีปหรือโหมดไฮเบอร์เนต และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ใช้มาตรการเพื่อป้องกันการเปิดใช้งานโดยไม่ตั้งใจ และทำให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ของคุณ

นอกจากนี้ โปรดป้องกันขั้วแบตเตอรี่สำรองแต่ละด้านเพื่อไม่ให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร โดยเก็บแบตเตอรี่ไว้ในบรรจุภัณฑ์เดิมที่ได้มาจากร้านค้า หรือหุ้มฉนวนที่ขั้วแบตเตอรี่ คุณอาจหุ้มขั้วแบตเตอรี่โดยนำเทปกาวมาปิดไว้ตรงขั้วแบตเตอรี่ที่โผล่พ้นออกมา หรือนำแบตเตอรี่แต่ละก้อนใส่ถุงพลาสติกแยกต่างหาก หรือใส่ในกระเป๋ากันกระแทก เราอนุญาตให้เก็บแบตเตอรี่สำรองไว้ในกระเป๋าถือเท่านั้น หากอุปกรณ์ดังกล่าวมีจุดประสงค์หลักเพื่อใช้จ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องอื่น จะถือว่าแบตเตอรี่ดังกล่าวจัดเป็นแบตเตอรี่ และจะมีการใช้ข้อจำกัดที่เหมาะสมสำหรับแบตเตอรี่แบบสแตนด์อโลน ตัวอย่างของอุปกรณ์ได้แก่ พาวเวอร์แบงก์ (แม้ว่าอุปกรณ์นี้จะประกอบด้วยฟีเจอร์ขนาดเล็กอื่นๆ เช่น ไฟแฟลช) / จั๊มป์-สตาร์ตเตอร์ (แม้ว่าอุปกรณ์นี้จะอยู่ในปั๊มลมแบบในตัว และหรือมีไฟแฟลช เป็นต้น)

ตามกฎระเบียบระหว่างประเทศว่าด้วยการขนส่งทางอากาศ แบตเตอรีแบบลิเทียมทุกประเภท (แบบสำรอง แบบติดตั้งในอุปกรณ์ แบบที่บรรจุอยู่ในอุปกรณ์) จะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของคู่มือการทดสอบและหลักเกณฑ์ของสหประชาชาติ ส่วนที่ 3 หัวข้อย่อ 38.3

คลิกที่นี่เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแบตเตอรี่แบบลิเทียม

คุณอาจใส่โดรนที่มีแบตเตอรี่หรือไม่มีแบตเตอรี่ไว้ในกระเป๋าถือของคุณได้

แบตเตอรี่ในโดรน และ/หรือแบตเตอรี่สำรองที่มีระดับพลังงานวัตต์-ชั่วโมง (Wh) ระหว่าง 100 Wh - 160 Wh ต้องได้รับอนุมัติจากสายการบินกาตาร์แอร์เวย์ก่อนที่คุณจะนำไปใส่ไว้ในกระเป๋าถือ โดยคุณไม่สามารถนำแบตเตอรี่ในโดรน และ/หรือแบตเตอรี่สำรองที่มีระดับพลังงานวัตต์-ชั่วโมงเกินกว่า 160 Wh ใส่ไว้ในกระเป๋าถือหรือกระเป๋าสัมภาระเช็กอินของคุณได้

คุณสามารถนำโดรนที่ไม่มีแบตเตอรี่ใส่ไว้ในกระเป๋าสัมภาระเช็กอินได้ ส่วนแบตเตอรี่ที่ถอดออกแล้วอาจเก็บไว้ในกระเป๋าถือขึ้นเครื่องได้ หากเป็นไปตามกฎระเบียบเกี่ยวกับแบตเตอรี่สำรอง ทั้งนี้ห้ามชาร์จไฟแบตเตอรี่สำหรับโดรนในระหว่างเที่ยวบินของคุณ

หลายประเทศมีข้อจำกัดที่อาจส่งผลต่อการขนส่งและการนำโดรนเข้าประเทศ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้อ่านกฎและกฎระเบียบในท้องถิ่นสำหรับประเทศปลายทางก่อนที่จะออกเดินทาง

คุณสามารถนำบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงซิการ์ไฟฟ้า ไปป์ไฟฟ้า และเครื่องพ่นไอน้ำส่วนบุคคลประเภทอื่นๆ ที่มีแบตเตอรี่ใส่ไว้ในกระเป๋าถือ ทั้งนี้ไม่อนุญาตให้ชาร์จอุปกรณ์หรือแบตเตอรี่บนเครื่อง

*อุปกรณ์ประเภทนี้อนุญาตให้พกติดตัวเท่านั้น

คุณสามารถนำไฟแช็กสำหรับบุหรี่ไฟฟ้า เช่น ไฟแช็กเลเซอร์พลาสมา ไฟแช็กขดลวดเทสลา ไฟแช็กฟลักซ์ ไฟแช็กอาร์ก หรือไฟแช็กอาร์กคู่ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเทียมพกติดตัวไปด้วย โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้สวมที่ครอบนิรภัยเพื่อป้องกันไฟแช็กของคุณ โดยจะต้องไม่นำไฟแช็กไปใส่ไว้ในกระเป๋าถือหรือกระเป๋าสัมภาระเช็กอิน ทั้งนี้ไม่อนุญาตให้ชาร์จอุปกรณ์หรือแบตเตอรี่บนเครื่องบิน

คุณอาจนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบพกพา (PED) รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทางการแพทย์แบบพกพา (PMED) ใส่ไว้ในกระเป๋าถือและกระเป๋าสัมภาระเช็กอิน ทั้งนี้ PED จะรวมถึงกล้องถ่ายรูป โทรศัพท์มือถือ แล็ปท็อป แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์ประเภทต่างๆ ที่มีแบตเตอรี่จ่ายไฟสำหรับการทำงาน*

อุปกรณ์ของคุณอาจมีแบตเตอรี่ประเภทต่อไปนี้ แบตเตอรี่ประเภท AA, AAA, C, D, 9 โวลต์, ถ่านกระดุม, แบตเตอรี่ลิเทียมแบบนิกเกิล-เมทัลไฮไดรด์ (NiMH) ที่ชาร์จไฟได้ และชาร์จไฟไม่ได้ และแบบนิกเกิล-แคดเมียม (NiCad) เป็นต้น

หากคุณใส่ PED ไว้ในกระเป๋าสัมภาระเช็กอิน โปรดปิดอุปกรณ์ทั้งหมด และอย่าใช้โหมดสลีปหรือไฮเบอร์เนต และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ใช้มาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเปิดใช้งานโดยไม่ตั้งใจ และก่อให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ของคุณ

* คุณสามารถพกพา PED ได้ไม่เกิน 15 เครื่อง

เมื่อใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเทียม ระดับพลังงานวัตต์-ชั่วโมงของแบตเตอรี่ลิเทียมจะต้องไม่เกิน 100 และปริมาณลิเทียมของแบตเตอรี่โลหะลิเทียมจะต้องไม่เกิน 2 กรัม

คุณสามารถนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบพกพา (PED) ที่มีแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทางการแพทย์แบบพกพา (PMED) ที่มีแบตเตอรี่โลหะลิเทียมและแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนไว้ในกระเป๋าถือและกระเป๋าสัมภาระเช็กอิน

PED และ PMED ที่มีแบตเตอรี่ลิเทียมรวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า กล้องวิดีโอ เครื่องมือไฟฟ้า เครื่องผลิตออกซิเจนแบบพกพา (POC) เครื่องกระตุ้นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ (AED) เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก (CPAP) และอุปกรณ์ใดๆ ที่มีเซลล์หรือแบตเตอรี่ลิเทียมสำหรับจ่ายพลังงานไฟฟ้าเพื่อการทำงาน

เฉพาะ PMED เท่านั้นที่อาจมีแบตเตอรี่โลหะลิเทียมซึ่งมีปริมาณลิเทียมระหว่าง 2 - 8 กรัม

PED และ PMED อาจมีแบตเตอรี่ลิเทียมไออนที่มีระดับพลังงานวัตต์-ชั่วโมง (Wh) ระหว่าง 100 Wh - 160 Wh

หากคุณใส่ PED ไว้ในกระเป๋าสัมภาระเช็กอิน โปรดปิดอุปกรณ์ทั้งหมด และอย่าใช้โหมดสลีปหรือไฮเบอร์เนต และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ใช้มาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเปิดใช้งานโดยไม่ตั้งใจ และก่อให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ของคุณ

แบตเตอรี่สำรองสำหรับอุปกรณ์เหล่านี้ได้แก่

PED/PMED – อนุญาตให้มีแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนสำรองรวม 2 แท่งเท่านั้น

PPMED – อนุญาตให้มีแบตเตอรี่โลหะลิเทียมสำรองรวม 2 แท่งเท่านั้น

ติดต่อเราหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

สายการบินกาตาร์แอร์เวย์มีข้อจำกัดเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งกระเป๋าเดินทางอัจฉริยะและสัมภาระที่ขับขี่ได้

อุปกรณ์กระเป๋าสัมภาระดังกล่าวมักจะประกอบด้วย

- พาวเวอร์แบงก์สำหรับแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนที่จ่ายไฟให้แก่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป

- แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนที่ใช้สำหรับสกูตเตอร์แบบยืนหรือแบบนั่ง

- Bluetooth การระบุความถี่สัญญาณวิทยุ และสัญญาณ Wi-Fi

- ระบบการติดตามโดยใช้ GPS ที่ใช้หรือไม่ใช้ GSM

- ป้ายติดกระเป๋าแบบอิเล็กทรอนิกส์

- อุปกรณ์ล็อกแบบอิเล็กทรอนิกส์

- กระเป๋าสัมภาระแบบขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง

กฎระเบียบสำหรับกระเป๋าเดินทางอัจฉริยะและสัมภาระที่ขับขี่ได้นั้นจะแตกต่างกันไปตามประเภทแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ของคุณ

ในกรณีที่อุปกรณ์ดังกล่าวทำงานโดยการจ่ายไฟจากแบตเตอรี่ลิเทียมหรือแบตเตอรี่แบบก้อนกระดุม: ได้รับอนุญาตให้เป็นสัมภาระที่ถือขึ้นเครื่องหรือสัมภาระเช็กอิน

ในกรณีที่อุปกรณ์ดังกล่าวมีการติดตั้งแบตเตอรี่ลิเทียมแบบถาวร (ถอดไม่ได้): ไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นสัมภาระที่ถือขึ้นเครื่องหรือสัมภาระเช็กอินอย่างเด็ดขาด

ทั้งนี้มีข้อยกเว้นสำหรับแบตเตอรี่ลิเทียมขนาดไม่เกิน 0.3 กรัม (สำหรับแบตเตอรี่โลหะลิเทียม) หรือ 2.7 วัตต์-ชั่วโมง (สำหรับแบตเตอรี่ลิเทียม) อุปกรณ์เหล่านี้จะได้รับอนุญาตให้เป็นสัมภาระที่ถือขึ้นเครื่องหรือสัมภาระเช็กอินในกรณีที่สามารถปิดเครื่องของอุปกรณ์เหล่านี้ได้อย่างแท้จริง (ไม่ใช่โหมดสลีปหรือโหมดไฮเบอร์เนต)

ในกรณีที่อุปกรณ์ดังกล่าวมีการติดตั้งแบตเตอรี่ลิเทียมแบบถอดได้และอัตราวัตต์-ชั่วโมง (Wh) ของแบตเตอรี่สูงกว่า 160: ไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นสัมภาระที่ถือขึ้นเครื่องหรือสัมภาระเช็กอินอย่างเด็ดขาด

ในกรณีที่อุปกรณ์ดังกล่าวมีการติดตั้งแบตเตอรี่ลิเทียมแบบถอดได้และอัตราวัตต์-ชั่วโมง (Wh) ของแบตเตอรี่ต่ำกว่า 160: ได้รับอนุญาตให้เป็นสัมภาระที่ถือขึ้นเครื่องหรือสัมภาระเช็กอิน โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องถอดแบตเตอรี่จากตัวเครื่อง หากอัตราวัตต์-ชม. (Wh) ของแบตเตอรี่สูงกว่า 100 จะต้องได้รับอนุญาตล่วงหน้าจากสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส ผู้โดยสารจะต้องถือแบตเตอรี่ดังกล่าวขึ้นเครื่องเป็นสัมภาระถือขึ้นเครื่องและจะต้องอยู่ภายในกระเป๋าสัมภาระตลอดเวลา แบตเตอรี่แบบถอดได้ทั้งหมดต้องได้รับการบรรจุอย่างถูกต้องเพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรหรือความเสียหาย

ผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางพร้อมกับกระเป๋าสัมภาระแบบขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเองที่มีคุณสมบัติไม่ตรงตามมข้อกำหนดข้างต้นสามารถจองเพื่อขนส่งสัมภาระเหล่านี้เป็นสินค้า (ภายใต้ข้อบังคับ) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ เว็บไซต์การขนส่งสินค้าโดยกาตาร์แอร์เวย์

คุณต้องพกพาแบตเตอรี่สำรองหรือแบตเตอรี่แบบถอดออกสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบพกพา (PED) และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทางการแพทย์แบบพกพา (PMED)*

แบตเตอรี่โลหะลิเทียมแต่ละก้อนต้องมีปริมาณลิเทียมไม่เกิน 2 กรัม นอกจากนี้แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนแต่ละก้อนต้องมีระดับพลังงานวัตต์-ชั่วโมง (Wh) ไม่เกินกว่า 100 Wh

แบตเตอรี่ประเภทอื่นๆ ได้แก่ แบตเตอรี่แบบแห้ง แบตเตอรี่นิกเกิลแคดเมียม แบตเตอรี่อัลคาไลน์ เป็นต้น

*คุณสามารถพกพาแบตเตอรี่สำรองได้ไม่เกิน 20 ก้อน

คุณไม่สามารถนำยานพาหนะขนาดเล็กที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเทียมใส่ไว้ในกระเป๋าถือหรือกระเป๋าสัมภาระเช็กอิน แม้ว่าจะถอดแบตเตอรี่ออกแล้วก็ตาม โดยให้ใช้ข้อกำหนดนี้ไม่ว่าแบตเตอรี่จะมีระดับพลังงานวัตต์-ชั่วโมงเท่าไรก็ตาม นอกจากนี้คุณยังไม่สามารถนำยานพาหนะอัจฉริยะติดตัวขึ้นเครื่องได้

ตัวอย่างเช่น จักรยานไฟฟ้าแบบล้อเดียว โฮเวอร์บอร์ด มินิเซกเวย์ สกูตเตอร์ไฟฟ้า บาลานซ์วีล

กฎระเบียบโดยเฉพาะบางข้อใช้บังคับกับสัมภาระที่ขับขี่ได้และกระเป๋าสัมภาระแบบขับเคลื่อนหรือเคลื่อนที่ด้วยตัวเอง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดอ่านหัวข้อ "กระเป๋าเดินทางอัจฉริยะและกระเป๋าสัมภาระที่ขับขี่ได้" ในหน้านี้

คุณสามารถพกพากระเป๋าเป้สะพายหลังสำหรับเหตุฉุกเฉินหิมะถล่มซึ่งบรรจุถังก๊าซในหมวด 2.2 จำนวนหนึ่งใบซึ่งไม่ทำให้เกิดอันตรายรอง ทั้งนี้กระเป๋าเป้สะพายหลังอาจมีกลไกส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือซึ่งบรรจุวัตถุระเบิดในหมวด 1.4S ปริมาณสุทธิไม่เกิน 200 มก.

โปรดจัดกระเป๋าเป้สะพายหลังในลักษณะที่ไม่สามารถเปิดใช้งานเองได้โดยไม่ตั้งใจ และถุงลมนิรภัยในกระเป๋าเป้สะพายหลังจะต้องติดตั้งวาล์วระบายแรงดัน

ติดต่อเราหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

คุณสามารถนำถังก๊าซขนาดเล็กที่ไม่ติดไฟและไม่เป็นพิษตามหมวด 2.2 ซึ่งใช้สวมใส่เพื่อการทำงานของระบบแขนขากลไกใส่ไว้ในกระเป๋าถือและกระเป๋าสัมภาระเช็กอิน นอกจากนี้คุณอาจพกพกถังสำรองที่มีขนาดใกล้เคียงกันได้หากจำเป็น เพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีก๊าซเพียงพอสำหรับตลอดช่วงเวลาระยะเวลาการเดินทาง

คุณสามารถพกพาที่บรรจุก๊าซขนาดเล็กที่ไม่ติดไฟ และบรรจุก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือก๊าซประเภทอื่นๆ ที่เหมาะสมตามหมวด 2.2 ซึ่งไม่ทำให้เกิดอันตรายรอง โดยใส่ไว้ในอุปกรณ์ความปลอดภัยส่วนบุคคลที่สามารถพองลมได้เอง (เช่น เสื้อชูชีพ)

โปรดตรวจสอบให้แน่ใจดังต่อไปนี้

- มีที่บรรจุก๊าซขนาดเล็กไม่เกิน 2 กระบอกติดอยู่ในอุปกรณ์ความปลอดภัยที่สามารถพองลมได้เอง เช่น เสื้อชูชีพ

- คุณพกพาอุปกรณ์ความปลอดภัยไม่เกิน 2 ชิ้นต่อคน

- อนุญาตให้พกที่บรรจุก๊าซสำรองขนาดเล็กไม่เกิน 2 กระบอกสำหรับอุปกรณ์ช่วยชีวิตแต่ละชิ้น

- อุปกรณ์แต่ละชิ้นจะต้องจัดเก็บไว้ในลักษณะที่ไม่สามารถเปิดใช้งานเองได้โดยไม่ตั้งใจ

หากคุณวางแผนว่าจะพกพาที่บรรจุก๊าซขนาดเล็กที่ไม่ติดไฟและไม่เป็นพิษสำหรับอุปกรณ์อื่นๆ เช่น อุปกรณ์เติมลมยางจักรยานโดยใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปริมาณที่อนุญาตคือ 4 กระบอกต่อคน และที่บรรจุก๊าซแต่ละกระบอกจะต้องมีความจุสูงสุดไม่เกิน 28 กรัม (ขนาดเท่ากับความจุของน้ำ 50 มล.)

ติดต่อเราหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

คุณสามารถนำเครื่องม้วนผมหนึ่งชิ้นที่บรรจุก๊าซไฮโดรคาร์บอนใส่ไว้ในกระเป๋าถือหรือกระเป๋าสัมภาระเช็กอิน โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้สวมฝาครอบนิรภัยไว้อย่างแน่นหนาที่ด้านบนของส่วนทำความร้อน

คุณต้องไม่ใช้งานเครื่องม้วนผมตลอดระยะเวลาที่อยู่บนเครื่อง นอกจากนี้คุณจะต้องไม่พกพาอุปกรณ์เติมก๊าซสำหรับเครื่องม้วนผมไว้ในกระเป๋าถือหรือกระเป๋าสัมภาระเช็กอิน

อุปกรณ์ต่างๆ เช่น ตู้เย็นขนาดเล็ก / เครื่องปรับอากาศแบบพกพา / ตู้กดน้ำ / เครื่องทำไอศกรีม / เครื่องทำน้ำแข็ง มักจะบรรจุก๊าซอัดเพื่อให้สามารถทำงานได้

เมื่อพิจารณากฎระเบียบว่าด้วยสินค้าอันตรายของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้ได้รับการยกเว้นจากกฎระเบียบดังกล่าว ตราบเท่าที่อุปกรณ์นั้นไม่ได้รับความเสียหาย

• เครื่องจักรที่บรรจุก๊าซอัดเหลวที่ไม่ติดไฟและไม่เป็นพิษ จะถือว่าไม่ใช่สินค้าอันตราย หากมีปริมาณก๊าซไม่เกินกว่า 12 กก.

• เครื่องจักรที่บรรจุก๊าซอัดเหลวที่ติดไฟได้และไม่เป็นพิษ จะถือว่าไม่ใช่สินค้าอันตราย หากปฏิบัติตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้
  • บรรจุก๊าซเหลวที่ติดไฟได้แต่ไม่เป็นพิษในปริมาณน้อยกว่า 100 กรัม
  • ส่วนประกอบของเครื่องจักรต้องได้รับการออกแบบและทดสอบว่ามีแรงดันในขณะใช้งานอย่างน้อยสามเท่าของเครื่องจักร

ออกแบบและสร้างขึ้นเพื่อบรรจุก๊าซและป้องกันความเสี่ยงที่จะระเบิดหรือแตกจากแรงดันที่อยู่ในส่วนประกอบระหว่างการขนส่งทางอากาศในสภาวะปกติ

คุณสามารถพกพาเตาแคมป์ปิงที่มีถังเชื้อเพลิงเปล่าซึ่งเคยบรรจุเชื้อเพลิงชนิดเหลวที่สามารถติดไฟได้มาก่อน นอกจากนี้คุณยังสามารถพกพาภาชนะบรรจุเชื้อเพลิงเปล่าซึ่งเคยบรรจุเชื้อเพลิงชนิดเหลวที่สามารถติดไฟได้มาก่อน

โปรดตรวจสอบให้แน่ใจดังต่อไปนี้

- ได้ระบายเชื้อเพลิงชนิดเหลวทั้งหมดออกจากถังเชื้อเพลิงของเตาแคมป์ปิงและภาชนะบรรจุน้ำมันเชื้อเพลิงแล้ว ให้ระบายถังเชื้อเพลิงหรือภาชนะออกอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง แล้วปล่อยทิ้งไว้โดยไม่เปิดฝาเป็นระยะเวลาอย่างน้อยหกชั่วโมงเพื่อให้เชื้อเพลิงที่ยังหลงเหลืออยู่ระเหยออกไปเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตราย หรืออาจใช้วิธีการอื่นที่ยอมรับได้ เช่น เติมน้ำมันปรุงอาหารลงในถังน้ำมันเชื้อเพลิงหรือภาชนะบรรจุเพื่อเพิ่มอุณหภูมิของจุดวาบไฟของของเหลวที่หลงเหลืออยู่ให้สูงกว่าจุดวาบไฟของของเหลวที่ติดไฟได้ แล้วจึงเทของเหลวดังกล่าวออกจากถังเชื้อเพลิงและ/หรือภาชนะให้หมด

- ถังเชื้อเพลิงของเตาแคมป์ปิงและภาชนะบรรจุเชื้อเพลิงมีฝาครอบปิดไว้อย่างแน่นหนา

- เตาแคมป์ปิงที่มีถังเชื้อเพลิงเปล่าและภาชนะบรรจุเชื้อเพลิงเปล่า ห่อด้วยวัสดุดูดซับ เช่น กระดาษเช็ดมือ แล้วบรรจุลงในถุงพลาสติกหรือถุงที่มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกัน โดยต้องปิดปากถุงให้สนิท หรือรวบและรัดด้วยหนังยางหรือเชือก

เตาแคมป์ปิงใหม่ หรือภาชนะบรรจุเชื้อเพลิงใหม่สำหรับเตาแคมป์ปิงดังกล่าว ซึ่งไม่เคยบรรจุเชื้อเพลงชนิดเหลวที่ติดไฟได้มาก่อน ไม่ถือเป็นสินค้าอันตราย และสามารถพกพาได้โดยไม่มีข้อจำกัด แต่เราขอแนะนำให้คุณติดต่อสายการบินกาตาร์แอร์เวย์ล่วงหน้าเพื่อขอคำยืนยัน

ติดต่อเราหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

คุณสามารถพกพาเซลล์เชื้อเพลิงที่ประกอบด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบพกพา (PED) ที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิง เช่น กล้องถ่ายรูป โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์แล็ปท็อป และกล้องวิดีโอไว้ในกระเป๋าถือได้

นอกจากนี้คุณยังสามารถพกพาที่บรรจุเซลล์เชื้อเพลิงสำรองไม่เกินสองกระบอกไว้ในกระเป๋าถือได้

มีข้อจำกัดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเซลล์เชื้อเพลิง ติดต่อเราหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

คุณสามารถพกพาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้ในกระเป๋าถือและกระเป๋าสัมภาระเช็กอิน หากอยู่ในบรรจุภัณฑ์สำหรับขายปลีก เครื่องดื่มดังกล่าวอาจมีปริมาณแอลกอฮอล์ตั้งแต่ 24% แต่ไม่เกินกว่า 70% ในภาชนะขนาดไม่เกิน 5 ลิตร ปริมาณสุทธิรวมสูงสุดของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อผู้โดยสารหนึ่งคนคือ 5 ลิตร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่เกิน 24% ไม่ถือเป็นสินค้าอันตรายตามกฎระเบียบที่บังคับใช้

เมื่อบรรจุอยู่ในกระเป๋าถือ จะมีข้อจำกัดเพิ่มเติมเกี่ยวกับปริมาณเนื่องจากกฎข้อบังคับอื่นๆ เช่น กฎระเบียบเกี่ยวกับของเหลว สเปรย์ และเจล (LAGs) นอกจากนี้ โปรดตรวจสอบกฎระเบียบของประเทศ/ศุลกากรด้วย

คุณสามารถพกพาของเหลว เจล ครีม และสเปรย์ที่อยู่ในภาชนะขนาดไม่เกิน 100 มล. (3.4 ออนซ์) ไว้ในกระเป๋าถือได้ ส่วนภาชนะที่มีขนาดใหญ่เกินกว่า 100 มล. จะไม่ได้รับอนุญาต แม้จะบรรจุสิ่งของดังกล่าวไว้เพียงบางส่วนก็ตาม

ควรบรรจุภาชนะเหล่านั้นในถุงใสขนาดหนึ่งควอร์ตหรือหนึ่งลิตรที่สามารถรูดปิดได้สนิท และไม่ใหญ่เกินกว่า 20x20 ซม. (8x8 นิ้ว) โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าสิ่งของทั้งหมดสามารถบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกได้อย่างพอดี

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบินจะขอให้คุณแสดงถุงใสที่บรรจุของเหลวแยกต่างหากในขั้นตอนการตรวจคัดกรอง

เมื่อคุณเดินทางพร้อมทารกหรือจำเป็นต้องมีอาหารพิเศษ เราอนุญาตให้คุณนำอาหารไปด้วยในปริมาณที่เหมาะสมตามความจำเป็นในระหว่างเที่ยวบินนั้น

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อยกเว้นเรื่องข้อกำหนดด้านการพกพาอาหารสำหรับทารก ยา และอาหารพิเศษ โปรดดูคำถามที่พบบ่อย

คูณสามารถนำภาชนะเก็บอุณหภูมิที่บรรจุไนโตรเจนเหลวแช่เย็น (ภาชนะขนส่งแบบแห้ง) พร้อมวัสดุที่มีรูพรุนซึ่งสามารถดูดซับได้อย่างเต็มที่ในอุณหภูมิต่ำใส่ไว้ในกระเป๋าถือและกระเป๋าสัมภาระเช็กอิน บรรจุภัณฑ์ดังกล่าวสามารถบรรจุได้เฉพาะสิ่งของที่ไม่เป็นอันตรายเท่านั้น

คุณสามารถพกพาถังออกซิเจนหรือถังอากาศที่จำเป็นสำหรับการใช้งานทางการแพทย์ โดยถังอากาศแต่ละถังจะต้องมีน้ำหนักรวมไม่เกิน 5 กก.

คุณไม่สามารถนำอุปกรณ์ออกซิเจนทางการแพทย์ส่วนบุคคลที่ใช้ออกซิเจนเหลวพกพาติดตัวไปด้วยในกระเป๋าถือหรือกระเป๋าสัมภาระเช็กอิน

ติดต่อเราหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

เราอนุญาตให้คุณเดินทางพร้อมกับเครื่องกระตุ้นหัวใจแบบคลื่นวิทยุ-ไอโซโทป หรืออุปกรณ์อื่นๆ รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเทียมซึ่งฝังไว้ในร่างกายหรือติดตั้งไว้ภายนอก

คุณสามารถพกพาตัวอย่างสิ่งส่งตรวจที่ไม่ติดเชื้อและบรรจุของเหลวที่ติดไฟได้ในปริมาณเล็กน้อยไว้ในกระเป๋าถือและกระเป๋าสัมภาระเช็กอิน ตัวอย่างสิ่งส่งตรวจที่ไม่ติดเชื้อ รวมถึงตัวอย่างสิ่งส่งตรวจของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม นก สัตว์ครึ่งน้ำครึ่งบก สัตว์เลื้อยคลาน ปลา แมลง และสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังประเภทอื่นๆ ตลอดจนของเหลวที่สามารถติดไฟได้ที่จัดอยู่ในหมวดหมู่ตาม UN 1170, UN 1198, UN 1987 และ UN 1219

โปรดตรวจสอบให้แน่ใจดังต่อไปนี้

(a) ตัวอย่างสิ่งส่งตรวจได้แก่

- สิ่งที่ห่ออยู่ในกระดาษอเนกประสงค์ และ/หรือผ้าขาวบางชุบแอลกอฮอล์หรือสารละลายแอลกอฮอล์ ก่อนที่จะนำไปใส่ไว้ในถุงพลาสติกที่ผนึกด้วยความร้อน และบรรจุของเหลวที่เคลื่อนที่ได้ปริมาณไม่เกิน 30 มล. หรือ

- สิ่งที่อยู่ในขวดหรือภาชนะเนื้อแข็งประเภทอื่น ๆ ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์หรือสารละลายแอลกอฮอล์ไม่เกิน 30 มล.

(b) จากนั้นให้นำตัวอย่างสิ่งส่งตรวจที่เตรียมไว้มาใส่ลงในถุงพลาสติกที่ปิดผนึกด้วยความร้อน

(c) แล้วนำตัวอย่างสิ่งส่งตรวจที่บรรจุอยู่ในถุงมาใส่ลงในถุงพลาสติกอีกใบหนึ่งที่ทำจากวัสดุดูดซับและปิดผนึกด้วยความร้อน

(d) จากนั้นนำถุงที่บรรจุเสร็จแล้วไปใส่ลงในบรรจุภัณฑ์ภายนอกที่แข็งแรงพร้อมวัสดุกันกระแทกที่เหมาะสม

(e) ปริมาณรวมของของเหลวที่สามารถติดไฟได้ต่อบรรจุภัณฑ์ภายนอกจะต้องไม่เกิน 1 ลิตร และ

(f) บรรจุภัณฑ์ที่สมบูรณ์จะระบุว่า "ตัวอย่างสิ่งส่งตรวจเพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ไม่มีข้อจำกัดตามข้อกำหนดพิเศษ A180 ที่ใช้บังคับ"

คุณสามารถนำเทอร์มอมิเตอร์หนึ่งชิ้นที่บรรจุสารปรอทสำหรับการใช้งานส่วนบุคคลใส่ไว้ในกระเป๋าสัมภาระเช็กอินได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าเทอร์มอมิเตอร์ดังกล่าวบรรจุอยู่ในปลอกกันกระแทก

คุณไม่สามารถพกพาเทอร์มอมิเตอร์ที่มีสารปรอทไว้ในกระเป๋าถือได้

หากคุณเป็นตัวแทนของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของรัฐบาล หรือหน่วยราชการที่คล้ายคลึงกัน และคุณได้รับอนุญาต คุณสามารถพกพาเทอร์มอมิเตอร์หรือบารอมิเตอร์ที่มีสารปรอทไว้ในกระเป๋าถือของคุณได้

เทอร์มอมิเตอร์หรือบารอมิเตอร์ดังกล่าวจะต้องบรรจุอยู่ในบรรจุภัณฑ์ภายนอกที่แข็งแรง และบุด้านในแบบปิดผนึก หรือถุงที่ทำจากวัสดุที่แข็งแรง สามารถป้องกันการรั่วไหลและทนต่อการเจาะทะลุได้ ตลอดจนสามารถกันไม่ให้สารปรอทซึมผ่านได้ ซึ่งป้องกันไม่ให้สารปรอทเล็ดลอดออกจากบรรจุภัณฑ์ได้ไม่ว่าจะวางอยู่ในตำแหน่งใด

ติดต่อเราหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

อนุญาตให้ใช้อุปกรณ์ช่วยการเคลื่อนที่ได้ในกรณีที่ผู้โดยสารมีข้อจำกัดในการเคลื่อนที่เนื่องมาจากความทุพพลภาพ สุขภาพ หรืออายุ หรือปัญหาการเคลื่อนที่ที่เกิดขึ้นชั่วคราว (เช่น กรณีขาหัก)

คุณสามารถพกพารถเข็นหรืออุปกรณ์ช่วยการเคลื่อนที่อื่น ๆ ที่คล้ายกันและใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ โดยใส่แบตเตอรี่แบบแห้ง แบบนิกเกิลเมทัลไฮไดรด์ หรือแบบแห้ง โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ใช้มาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเปิดใช้งานอุปกรณ์ช่วยการเคลื่อนที่ดังกล่าวโดยไม่ตั้งใจ

แบตเตอรี่แบบแห้งจะต้องไม่มีของเหลวอิสระหรือของเหลวที่ไม่ดูดซับ นอกจากนี้หากคุณถอดแบตเตอรี่ออกจากอุปกรณ์ช่วยการเคลื่อนที่ จะต้องนำแบตเตอรี่ที่ถอดออกแล้วดังกล่าวพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองไปใส่ไว้ในบรรจุภัณฑ์เนื้อแข็งที่แข็งแรง และจัดเก็บไว้ที่ใต้ท้องเครื่อง

คุณสามารถพกพาแบตเตอรี่สำรองแบบเปียกได้ไม่เกินหนึ่งชิ้น หรือแบบนิกเกิลเมทัลไฮไดรด์หรือแบบแห้งไม่เกินสองชิ้น

ติดต่อเราหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

คุณสามารถพกพารถเข็นหรืออุปกรณ์ช่วยการเคลื่อนที่อื่นๆ ที่คล้ายคลึงกันและใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ประเภทลิเทียมไอออน

หากมีแบตเตอรี่อยู่ในอุปกรณ์ช่วยการเคลื่อนที่ จะไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับระดับพลังงานวัตต์-ชั่วโมง (Wh) แต่หากคุณถอดแบตเตอรี่ออกจากอุปกรณ์ช่วยการเคลื่อนที่ แบตเตอรี่ดังกล่าวจะต้องมีระดับพลังงานวัตต์-ชั่วโมงไม่เกิน 300 Wh หากถอดแบตเตอรี่สองก้อนออกอุปกรณ์ช่วยการเคลื่อนที่ แบตเตอรี่แต่ละก้อนจะต้องมีระดับพลังงานวัตต์-ชั่วโมงไม่เกิน 160 Wh

จะต้องนำแบตเตอรี่ที่ถอดออกพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองใส่กระเป๋ากันกระแทก และเก็บไว้ในห้องผู้โดยสาร สำหรับแบตเตอรี่สำรอง คุณสามารถพกพาแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนที่มีระดับพลังงานวัตต์-ชั่วโมงไม่เกิน 300 Wh ได้ไม่เกินหนึ่งก้อน หรือแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนสำรองไม่เกินสองก้อน โดยแบตเตอรี่แต่ละก้อนต้องมีระดับพลังงานวัตต์-ชั่วโมงไม่เกิน 160 Wh โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเก็บแบตเตอรี่ที่ถอดออกมาอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรหรือความเสียหาย

ติดต่อเราหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

คุณสามารถพกพารถเข็นหรืออุปกรณ์ช่วยการเคลื่อนที่อื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกันและใช้พลังงานจากแบตเตอรี่แบบเปียก

โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ช่วยการเคลื่อนที่ของคุณติดตั้งแบตเตอรี่โดยมีฝาครอบช่องระบายอากาศที่สามารถป้องกันการหกได้ แต่หากไม่สามารถบรรจุ จัดเก็บ ติดตั้ง และขนถ่ายในตำแหน่งที่ตั้งตรงได้เสมอไป หรือหากอุปกรณ์ช่วยเคลื่อนที่ของคุณไม่ได้มีการป้องกันแบตเตอรี่ไว้อย่างเพียงพอ จะต้องถอดแบตเตอรี่ดังกล่าวออก

แบตเตอรี่ที่ถอดออกจะต้องพกพาอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่แข็งแรงทนทาน ซึ่งป้องกันการรั่วไหลและของเหลวจากแบตเตอรี่ซึมผ่านไม่ได้ โดยจะต้องป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่ที่ถอดออกแล้วเกิดการลัดวงจร จัดวางในตำแหน่งตั้งตรงอยู่ในบรรจุภัณฑ์ และบุด้วยวัสดุที่สามารถดูดซับได้อย่างเหมาะสม ซึ่งสามารถดูดซับเนื้อของเหลวทั้งหมดได้อย่างเพียงพอ

บรรจุภัณฑ์จะต้องติดป้ายที่ระบุว่า "BATTERY, WET, WITH WHEELCHAIR" (แบตเตอรี่แบบเปียก พร้อมเก้าอี้รถเข็น) หรือ "BATTERY, WET, WITH MOBILITY AID" (แบตเตอรี่แบบเปียก พร้อมอุปกรณ์ช่วยการเคลื่อนที่) ตลอดจน "Corrosive" (กัดกร่อน) และ "Package Orientation" (การจัดวางบรรจุภัณฑ์) และจะนำบรรจุภัณฑ์ที่เรียบร้อยแล้วไปไว้ใต้ท้องเครื่อง คุณจะได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อคุณติดต่อเราเพื่อขอรับการอนุมัติจากสายการบิน

ติดต่อเราหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

หากคุณเป็นเจ้าหน้าที่ขององค์กรที่มีการห้ามใช้อาวุธเคมีซึ่งเดินทางเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ และคุณได้รับการอนุมัติ คุณสามารถพกพาอุปกรณ์ตรวจสอบสารเคมีได้ ซึ่งรวมถึงเครื่องตรวจสอบสารเคมี (CAM) และ/หรืออุปกรณ์แจ้งเตือนและค้นหาแบบรวดเร็ว (RAID-M) ซึ่งไม่มีแบตเตอรี่ลิเทียม

โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้บรรจุอุปกรณ์ตรวจสอบสารเคมีไว้อย่างแน่นหนา ทั้งนี้อุปกรณ์ที่มีสารกัมมันตภาพรังสีจะต้องมีปริมาณของสารกัมมันตภาพรังสีไม่เกินกว่าที่ระบุไว้ในตาราง 10.3.C ของกฏข้อบังคับว่าด้วยสินค้าอันตรายของ IATA

ติดต่อเราหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

คุณสามารถนำน้ำแข็งแห้งปริมาณไม่เกิน 2.5 กก. สำหรับสินค้าที่เน่าเสียได้ง่ายและไม่ได้จัดเป็นสินค้าอันตราย ซึ่งอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่สามารถปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ ใส่ไว้ในกระเป๋าถือหรือกระเป๋าสัมภาระเช็กอิน

บรรจุภัณฑ์ที่มีน้ำแข็งแห้งและอยู่ในกระเป๋าสัมภาระเช็กอินจะต้องระบุน้ำหนักสุทธิของน้ำแข็งแห้ง และติดฉลาก "DRY ICE" (น้ำแข็งแห้ง) ไว้ด้วย

ติดต่อเราหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

คุณสามารถพกพาสิ่งของที่ทำให้เกิดความร้อน เช่น ไฟฉายใต้น้ำ (ไฟฉายดำน้ำ) และหัวแร้งบัดกรี

หากคุณพกพาอุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่และสามารถทำให้เกิดความร้อนสูงมากได้ ซึ่งอาจก่อให้เกิดเพลิงไหม้ได้หากเปิดใช้งาน เช่น ไฟฉายแรงสูงสำหรับใต้น้ำ เป็นต้น ให้แยกส่วนประกอบที่ทำให้เกิดความร้อนและแบตเตอรี่ออกจากกัน

ซึ่งสามารถทำได้โดยถอดส่วนประกอบที่ทำให้เกิดความร้อน แบตเตอรี่หรือส่วนประกอบอื่น เช่น ฟิวส์ แบตเตอรี่ใด ๆ ที่ถอดออกแล้วจะต้องป้องกันไม่ให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร โดยจะต้องนำแบตเตอรี่ที่ถอดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าถือ

ติดต่อเราหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

เครื่องยนต์และอุปกรณ์ที่มีเครื่องยนต์แบบสันดาปภายใน หรือเครื่องยนต์เซลล์เชื้อเพลิงจะได้รับอนุญาตเฉพาะกรณีที่เป็นไปตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ด้านล่างเท่านั้น

เครื่องยนต์หรืออุปกรณ์จะต้องไม่มีสินค้าอันตรายประเภทอื่น ๆ และแบตเตอรี่

เครื่องยนต์ใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงที่ไม่ตรงกับหลักเกณฑ์การจำแนกประเภทหรือหมวดหมู่ของกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าอันตราย หรือ

ถังน้ำมันเชื้อเพลิงของยานพาหนะ เครื่องจักร หรืออุปกรณ์อื่นๆ จะต้องไม่มีเชื้อเพลิง หรือมีการล้างและไล่ไอระเหยออกจากถังน้ำมันเชื้อเพลิง ตลอดจนมีมาตรการที่เพียงพอสำหรับกำจัดอันตรายต่างๆ

ผู้โดยสารจะต้องแสดงเอกสารแบบลายลักษณ์อักษรหรือแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ระบุว่ามีการปฏิบัติตามขั้นตอนการล้างและการไล่อากาศเรียบร้อยแล้ว

ระบบเชื้อเพลิงทั้งหมดของเครื่องจักไม่มีของเหลวอิสระ และมีการปิดหรือปิดฝาท่อเชื้อเพลิงทั้งหมด หรือเชื่อมต่ออย่างแน่นหนากับเครื่องจักรหรืออุปกรณ์นั้น

สิ่งของรายการนี้ได้รับอนุญาตเมื่อพกพาติดตัวเท่านั้น

คุณสามารถนำกล่องไม้ขีดหรือไฟแช็กขนาดเล็กที่ไม่มีเชื้อเพลิงเหลวที่ไม่สามารถดูดซับได้ นอกเหนือไปจากก๊าซเหลว พกพาติดตัวไปได้เพื่อการใช้งานส่วนบุคคล ทั้งนี้คุณจะต้องดำเนินการสองขั้นตอนแยกกันเพื่อจุดไฟโดยใช้ไฟแช็ก คุณไม่สามารถพกพาไม้ขีดไฟหรือไฟแช็กไว้ในกระเป๋าสัมภาระเช็กอินหรือกระเป๋าถือได้

นอกจากนี้ คุณไม่สามารถพกพาน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับไฟแช็กหรือก๊าซเติมไฟแช็กติดตัวไว้ในกระเป๋าสัมภาระเช็กอินหรือในกระเป๋าสัมภาระถือขึ้นเครื่อง คุณยังไม่สามารถพกพาไม้ขีดไฟแบบ "ขีดกับวัตถุต่าง ๆ แล้วติดไฟได้" และไฟแช็กแบบ "เปลวไฟสีน้ำเงิน" หรือ "ซิการ์"

นอกจากนี้ ไฟแช็กที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเทียม เช่น "ไฟแช็กเลเซอร์พลาสมา" "ไฟแช็กขดลวดเทสลา" "ไฟแช็กฟลักซ์" "ไฟแช็กอาร์ก" หรือ "ไฟแช็กอาร์กคู่" ที่ไม่มีปลอกนิรภัยหรือวิธีการอื่นๆ ในการป้องกันไม่ให้เกิดการเปิดใช้งานโดยไม่ได้ตั้งใจก็ไม่ได้รับอนุญาตเช่นกัน

คุณสามารถพกพาสิ่งของทางการแพทย์และอุปกรณ์สำหรับใช้ในห้องน้ำที่ไม่มีสารกัมมันตภาพรังสีไว้ในกระเป๋าสัมภาระเช็กอินและกระเป๋าถือ สิ่งของเหล่านี้รวมถึงสเปรย์ เช่น สเปรย์ฉีดผม น้ำหอม และโคโลญ ตลอดจนยาที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ นอกจากนี้คุณยังสามารถพกพาสเปรย์ที่ไม่ติดไฟและไม่มีพิษตามหมวด 2.2 ซึ่งไม่ก่อให้เกิดอันตรายรอง เพื่อการใช้งานเกี่ยวกับกีฬาหรือบ้าน

ปริมาณรวมสุทธิของสิ่งของทางการแพทย์และอุปกรณ์อาบน้ำที่ไม่มีสารกัมมันตภาพรังสี และสเปรย์ที่ไม่ติดไฟและไม่มีพิษตามหมวด 2.2 จะต้องไม่เกิน 2 กก. หรือ 2 ลิตร นอกจากนี้จำนวนสิ่งของแต่ละรายการจะต้องไม่เกิน 0.5 กก. หรือ 0.5 ลิตร

ต้องมีฝาครอบหัวฉีดสเปรย์ไว้หรือวิธีการอื่น ๆ ที่เหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้มีการปล่อยสารที่อยู่ภายในโดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งนี้โปรดทราบว่าอาจมีการใช้บังคับข้อกำหนดเพิ่มเติม

อาจมีข้อจำกัดเพิ่มเติมหากพกพาไว้ในกระเป๋าถือ เนื่องจากกฎระเบียบอื่นๆ เช่น กฎระเบียบเกี่ยวกับของเหลว สเปรย์ และเจล (LAGs)

คุณสามารถพกพาอุปกรณ์วัดการซึมผ่าน เพื่อวัดค่าสำหรับอุปกรณ์ตรวจสอบคุณภาพอากาศไว้ในกระเป๋าสัมภาระเช็กอินได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ของคุณเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าอันตรายของ IATA ภายใต้ข้อกำหนดพิเศษ A41

มีข้อจำกัดเพิ่มเติม ติดต่อเราหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

คุณไม่สามารถพกพาอุปกรณ์ประเภทการรักษาความปลอดภัย เช่น กระเป๋าเอกสาร กล่องใส่เงินสด กระเป๋าใส่เงินสด ฯลฯ ซึ่งมีสินค้าอันตราย เช่น วัสดุประเภทดอกไม้เพลิงสำหรับส่งสัญญาณ และแบตเตอรี่ลิเทียม

แต่คุณอาจพกพาอุปกรณ์ประเภทการรักษาความปลอดภัยบางรายการไว้ในกระเป๋าสัมภาระเช็กอินก็ได้ หากอุปกรณ์ดังกล่าวเป็นไปตามข้อกำหนดเฉพาะ

มีข้อจำกัดเพิ่มเติม ติดต่อเราหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

คุณไม่สามารถพกพาสารที่มีลักษณะคล้ายแป้งซึ่งบรรจุอยู่ในภาชนะที่เกินกว่า 350 มล. ไว้ในกระเป๋าสัมภาระถือขึ้นเครื่อง และสารลักษณะดังกล่าวจะต้องผ่านการตรวจคัดกรองเพิ่มเติม แต่คุณอาจพกพาสารที่มีลักษณะคล้ายแป้งที่อยู่ในภาชนะที่มีขนาดเกิน 350 มล. ไว้ในกระเป๋าสัมภาระเช็กอิน

ข้อจำกัดข้างต้นไม่ได้ใช้บังคับกับสารที่มีลักษณะคล้ายแป้งซึ่งสั่งจ่ายทางการแพทย์ นมผงสำหรับทารก และอัฐิมนุษย์

สารที่มีลักษณะคล้ายแป้งและซื้อในร้านค้าปลอดภาษีจะต้องบรรจุลงในถุงบ่งชี้ร่องรอยการแกะเพื่อความปลอดภัย (STEB) ที่ปิดผนึกไว้อย่างแน่นหนา

ข้อจำกัดเกี่ยวกับสารที่มีลักษณะคล้ายแป้งจะใช้บังคับกับผู้โดยสารที่เดินทางไป/กลับจากประเทศที่ระบุไว้ด้านล่างนี้

ออสเตรเลีย

ผู้โดยสารที่เดินทางจากสนามบินนานาชาติในออสเตรเลีย ผู้โดยสารที่เดินทางไปยังแคนเบอร์ราโดยผ่านซิดนีย์ เมื่อเดินทางกับสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์สจะต้องผ่านการตรวจคัดกรองเพื่อความปลอดภัยสำหรับการเปลี่ยนเครื่องระหว่างประเทศที่ซิดนีย์

นิวซีแลนด์

ผู้โดยสารที่เดินทางจากสนามบินนานาชาติในนิวซีแลนด์ รวมถึงผู้โดยสารที่เปลี่ยนเครื่องและผ่านจุดคัดกรองระหว่างประเทศในนิวซีแลนด์

กาตาร์

ผู้โดยสารที่เดินทางด้วยเที่ยวบินตรงจากกาตาร์ไปยังสหรัฐอเมริกา

คุณไม่สามารถนำอุปกรณ์ที่มีลักษณะทู่ แต่อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บร้ายแรงได้เมื่อใช้ตี มาไว้ภายในห้องโดยสารเครื่องบิน แต่สิ่งของเหล่านี้สามารถพกพาไว้ในกระเป๋าสัมภาระเช็กอินได้ ตัวอย่างของอุปกรณ์เหล่านี้ได้แก่

- ไม้เบสบอลและไม้ซอฟต์บอล

- อุปกรณ์สำหรับศิลปะการต่อสู้

- ไม้พลองและไม้กระบอง เช่น ไม้ตะบอง กระบองเหล็ก และไม้กระบองสั้นของตำรวจ

คุณไม่สามารถพกพาอุปกรณ์วัตถุระเบิดและวัตถุสำหรับวางเพลิงดังต่อไปนี้ รวมถึงวัตถุจำลอง ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บร้ายแรงหรือเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของเครื่องบิน เช่น

- กระสุน (อาจพกพกไว้ในกระเป๋าสัมภาระเช็กอิน หากได้รับอนุญาต)

- เชื้อปะทุระเบิด

- ตัวจุดชนวนและฟิวส์

- ทุ่นระเบิด ระเบิดมือ และวัตถุระเบิดที่จัดเก็บไว้เพื่อการทหาร

- ดอกไม้เพลิงสำหรับส่งสัญญาณ รวมถึงดอกไม้เพลิงด้วย

- ถังหรือตลับที่ทำให้เกิดควันและบรรจุไดนาไมต์ ดินปืน และวัตถุระเบิดประเภทพลาสติก

คุณไม่สามารถพกพาปืน อาวุธปืน และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ปล่อยกระสุนยิงเพื่อก่อให้เกิดการบาดเจ็บร้ายแรง หรือสิ่งของที่อาจเข้าใจผิดว่าเป็นอุปกรณ์ดังกล่าว รวมถึงของเล่น วัตถุโบราณ และวัตถุจำลองในห้องโดยสารเครื่องบิน แต่สิ่งของดังต่อไปนี้อาจเก็บไว้ในกระเป๋าสัมภาระเช็กอินของคุณได้ เช่น

- อาวุธปืนทุกประเภท รวมถึงปืนพก ปืนลูกโม่ ปืนไรเฟิล และปืนลูกซอง (สามารถพกพาไว้ในกระเป๋าสัมภาระเช็กอิน หากได้รับอนุญาต)

- ปืนของเล่น ปืนจำลอง และอาวุธปืนเลียนแบบ ซึ่งอาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นอาวุธจริงได้

- ส่วนประกอบของอาวุธปืน ซึ่งไม่รวมกล้องส่องทางไกล

- ปืนอัดอากาศและปืนคาร์บอนไดออกไซด์ รวมถึงปืนพก ปืนอัดเม็ด ปืนไรเฟิล และปืนอัดลมเบา (ปืนบีบี)

- ปืนยิงพลุสัญญาณ และปืนปล่อยตัวนักกีฬา

- คันธนู หน้าไม้ และลูกศร

- ปืนฉมวก และปืนหอก

- หนังสติ๊ก และเครื่องยิงหน้าไม้กล

คุณไม่สามารถพกพาสิ่งของที่สร้างความประหลาดใจในห้องโดยสารเครื่องบิน โดยอาจพกพกสิ่งของเหล่านี้ไว้ในกระเป๋าสัมภาระหากได้รับอนุญาต

- อุปกรณ์สำหรับการช็อตไฟฟ้า เช่น ปืนไฟฟ้า อย่างเช่น ปืนช็อตไฟฟ้า และกระบองไฟฟ้า

- อุปกรณ์ทำให้สัตว์สลบ และอุปกรณ์ฆ่าสัตว์

- สารเคมี ก๊าซ และสเปรย์ที่ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพและไร้สมรรถภาพชั่วคราว เช่น สเปรย์ป้องกันตัว สเปรย์พริกไทย หรือสเปรย์พริก แก๊สน้ำตา สเปรย์กรด และสเปรย์ไล่สัตว์

คุณไม่สามารถพกพาวัตถุที่มีปลายหรือขอบแหลมในห้องโดยสารเครื่องบิน แต่อาจพกพาสิ่งของเหล่านี้ไว้ในกระเป๋าสัมภาระเช็กอินได้

- สิ่งของที่ออกแบบมาสำหรับการสับ เช่น ขวาน ขวานเล็ก และมีดขนาดใหญ่

- ขวานน้ำแข็ง และที่เจาะน้ำแข็ง

- ใบมีดโกน และมีดอเนกประสงค์

- มีดพร้อมใบมีดที่ยาวกว่า 6 ซม.

- กรรไกรที่มีใบมีดยาวเกิน 6 ซม. เมื่อวัดจากศูนย์กลาง

- อุปกรณ์ศิลปะการต่อสู้ที่มีปลายหรือขอบแหลม เช่น ดาบและกระบี่

สิ่งของเหล่านี้อาจใส่ลงในกระเป๋าสัมภาระเช็กอินได้

คุณไม่สามารถพกพาเครื่องสำหรับการทำงานซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บร้ายแรงในห้องโดยสารเครื่องบิน แต่อาจพกพาสิ่งของเหล่านี้ไว้ในกระเป๋าสัมภาระเช็กอินได้ เช่น

- ชะแลง

- สว่านและดอกสว่าน รวมถึงสว่านไฟฟ้าแบบพกพาและไร้สาย

- เครื่องมือที่มีใบมีดหรือด้ามยาวเกิน 6 ซม. และอาจใช้เป็นอาวุธได้ เช่น ไขควง และสิ่ว

- เลื่อย รวมถึงเลื่อยไฟฟ้าพกพาแบบไร้สาย

- เครื่องเป่าลม

- ปืนลูกซองและปืนยิงตะปู

สิ่งของเหล่านี้อาจใส่ลงในกระเป๋าสัมภาระเช็กอินได้