จองเที่ยวบินไปที่โจฮันเนสเบิร์กกับสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส

เดินทางไปที่โจฮันเนสเบิร์ก แล้วพบกับเมืองซึ่งแต่ละมุมเมืองมีลักษณะที่โดดเด่นแตกต่างอย่างชัดเจน นิวทาวน์เป็นเขตทางวัฒนธรรมของเมืองแห่งนี้ โดยมีพิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ และแจ๊สคลับต่าง ๆ คุณควรวางแผนที่จะไปชมจัตุรัสแมรี ฟิตซ์เจอรัลด์ ซึ่งเป็นลานเมืองที่เต็มไปด้วยร้านอาหารและคาเฟ่ จัตุรัสแห่งนี้เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์แอฟริกาและโรงละครมาร์เก็ต

คุณจะได้เรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ที่มีความขัดแย้งในอดีตและการพัฒนามาสู่สภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเมื่อคุณได้ชมพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับนโยบายการแบ่งแยกสีผิว โดยคุณอาจใช้เวลาประมาณครึ่งวันที่นี่ เพื่อชมการแสดงข้อมูลแบบโต้ตอบเกี่ยวกับยุครุ่งเรืองและยุคเสื่อมของนโยบายการแบ่งแยกสีผิว

ที่โซเวทู คุณจะได้เห็นบ้านหลังแรกซึ่งเคยเป็นที่พักอาศัยของเนลสัน แมนเดลา วีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของแอฟริกาใต้ ปัจจุบันบ้านหลังนั้นได้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์

คุณควรเดินทางไปที่เขตชานเมืองตอนเหนือ ซึ่งเป็นที่ตั้งของท้องฟ้าจำลองโจฮันเนสเบิร์ก และพิพิธภัณฑ์แห่งชาติด้านประวัติศาสตร์การทหารของแอฟริกาใต้ อุทยานครูเกอร์เป็นเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าที่สำคัญที่สุดของประเทศนี้ โดยใช้เวลาขับรถจากตัวเมืองประมาณ 4 ชั่วโมง

วิธีที่ดีที่สุดก็คือในการท่องเที่ยวโจฮันเนสเบิร์กก็คือ ใช้บริการมัคคุเทศก์ซึ่งจะช่วยให้คุณไม่พลาดการชมสถานที่สำคัญ ๆ หรือคุณอาจเลือกโปรแกรมท่องเที่ยวด้วยการเดินเท้า หรือขึ้นรถบัสชมเมืองแบบขึ้นลงไม่จำกัด เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์อันซับซ้อนและชมสถานที่ต่าง ๆ โดยใช้เวลามากน้อยตามที่คุณต้องการ สถานที่สำคัญที่ควรไปเยี่ยมชม ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์คอนสติติวชันฮิลล์ และสวนสนุกโกลด์รีฟซิตี้

หากคุณอยากออกจากใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบและวุ่นวาย คุณอาจไปที่สวนพฤกษศาสตร์วอลเตอร์ซิซูลู ซึ่งมีพื้นที่สำหรับปิคนิคและรับประทาน 'บราย' (บาร์บีคิวแบบแอฟริกาใต้) และเป็นแหล่งที่คุณจะได้ดูนกชนิดต่าง ๆ เช่น นกอินทรีดำซึ่งเป็นสัตว์ป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ หากคุณไปเที่ยวโจฮันเนสเบิร์กพร้อมกับครอบครัว อย่าลืมแวะไปชมสวนสิงโต ซึ่งคุณจะได้พบกับลูกสิงโต และสามารถขับรถท่องเที่ยวด้วยตนเองในเขตอนุรักษ์สัตว์ป่า เพื่อชมยีราฟ ม้าลาย ละมั่ง และสิงโต

ศูนย์การค้าแซนด์ตัน ซิตี้ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในหมู่นักท่องเที่ยวที่ต้องการจับจ่ายใช้สอยในแต่ละวัน

โจฮันเนสเบิร์กเป็นเมืองที่มีความหลากหลายและมีอาหารให้เลือกมากมาย อาหารแอฟริกาได้รับอิทธิพลมาจากอาหารอินเดียและมาเลย์ และที่เมืองนี้ก็มีอาหารจากภูมิภาคต่าง ๆ ให้ได้ลิ้มลอง ชาวเมืองนี้นิยมการรับประทานกลางแจ้ง ซึ่งคุณสามารถรับประทานอาหารชั้นดีได้ในราคาไม่แพง คุณจะพบว่ามีอาหารดี ๆ ให้เลือกมากมาย ทั้งอาหารจากภูมิภาคต่าง ๆ และอาหารนานาชาติซึ่งมีคุณภาพชั้นเลิศ

อาหารพื้นเมืองส่วนใหญ่จะปรุงด้วยเนื้อ แต่ก็มีอาหารมังสวิรัติให้เลือกด้วยเช่นกัน 'บราย' ที่รับประทานกลางแจ้ง (บาร์บีคิว) มักทำจากเนื้อแกะหั่นบาง ไก่หมักซอส และโซซาตี (เนื้อแกะเสียบไม้ย่าง) นอกจากนี้ยังมีอาหารประเภท 'โบโบตี' ซึ่งทำจากเนื้อวัวหรือเนื้อแกะบดผสมกับเครื่องแกงและซอสที่ทำจากไข่ 'ชากาลากา' เป็นสลัดแบบมาเลย์-อินเดีย ทำจากดอกกะหล่ำ แคร์รอต และเครื่องเทศต่าง ๆ หลังรับประทานอาหาร คุณอาจลองดื่ม 'รอยบอส' หรือชาแดง ซึ่งมีขายทั่วไป และเป็นเครื่องดื่มปราศจากคาเฟอีนที่สามารถใช้ดื่มแทนชาดำแบบดั้งเดิมได้เป็นอย่างดี

ตลาดงานฝีมือเป็นแหล่งรวมเครื่องประดับสวย ๆ ที่ทำจากลวดและลูกปัด หรือสินค้าที่หายากของแอฟริกา คุณอาจลองแวะไปชมตลาดนัดโรสแบงก์ในวันอาทิตย์ และตลาดไมไม ซึ่งเป็นตลาดที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองนี้และจำหน่ายของที่ระลึกที่แปลกใหม่

หากคุณต้องการซื้องานศิลปะและงานฝีมือ คุณอาจไปที่ศูนย์การค้าในเมือง ซึ่งจะมีร้านค้าที่มีหลายสาขาและร้านค้าอิสระต่าง ๆ โจฮันเนสเบิร์กมีร้านค้าอิสระกว่า 360 แห่ง ซึ่งคุณสามารถต่อรองราคาที่ดีที่สุดได้ แต่หากคุณต้องการซื้อสินค้าแบรนด์เนมราคาแพงจากประเทศต่าง ๆ คุณควรไปที่ศูนย์การค้าเครสตา หรือศูนย์การค้าแซนด์ตันซิตี้